ประวัติวัดเขาสอยดาวเหนือ

ประวัติวัดเขาสอยดาวเหนือ

ปี พ.ศ.2534 คณะศิษย์ของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ผู้ก่อตั้งวัดเขาสุกิม มีจิตศรัทธา รวบรวมทุนทรัพย์จัดซื้อที่ดินเชิงเขาสอยดาว ซึ่งเป็นพื้นที่ทาเกษตรกรรมปลูกมันสาปะหลัง ปลูกข้าวโพด ของชาบ้าน ถวายหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย จานวน 11 ไร่เศษ คือที่ตั้งวัด ณ ปัจจุบันนี้

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างวัดสาขาวัดเขาสุกิม ไว้ ณ อาเภอสอยดาว หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย รับไว้พิจารณา แล้วมอบให้ พระอาจารย์โอภาส ธมฺโมภาโส ซึ่ง
ระหว่างนั้นได้จาริกภาวนาเป็นการส่วนตัว พร้อมด้วยพระสงฆ์จากวัดเขาสุกิม เดินทางมารับถวาย เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม พ.ศ.2535 และได้ปลูกต้นไม้เป็นปฐมฤกษ์เต็มพื้นที่จำนวน 11 ไร่เศษ เพื่อทดแทนพื้นที่เกษตรกรรมดังกล่าว

วันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2559 ที่พักสงฆ์เขาสอยดาวเหนือ ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้สร้างเป็นวัดได้
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2559 ได้รับอนุญาตจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ตั้งเป็นวัดได้มีนามว่า “วัดเขาสอยดาวเหนือ” วัดเขาสอยดาวเหนือ เป็นวัดอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เน้นในการปลูกป่าไม้เป็น
สำคัญ ส่วนการก่อสร้างถาวรวัตถุนั้น ก่อสร้างเท่าที่จำเป็นในการประกอบสังฆรรมของพระสงฆ์

ปัจจุบันมีเสนาสนะดังนี้ ศาลาการเปรียญ 1 หลัง / ศาลาหอฉัน 1 หลัง / ครัว 1 หลัง / กุฏิสงฆ์ 9
หลัง / บ้านพักอุบาสิกา 6 หลัง

ขณะนี้ทางวัดกำลังดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ เพื่อให้เป็นวัดที่สมบูรณ์เต็มรูปแบบ เพื่อ พระสงฆ์จะได้มีสีมาอุโบสถประกอบกิจทางสังฆกรรม เช่นบวชนาค สวดพระปาติโมกข์ เป็นต้น

อุโบสถมีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 35 เมตร และมีพื้นที่อาณาบริเวณสำหรับประกอบกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนากว้าง 60 เมตร ยาว 60 เมตร

วันที่ 14 กุมภาพนธ พ.ศ. 2567 ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถ โดยได้รับความเมตตาจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตน (จุนท์ พฺรหมฺคุตฺโต) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดบวร
นิเวศวิหารในขณะนั้น เป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์ ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 (รอบที่ 2) กำลังรุนแรง

วันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2567 ประกอบพิธีสวดถอนสีมา ตามพระธรรมวินัย โดยมี พระราชเมธากรกวี เจ้าคณะภาค 12-13 (ธรรมยุต) เป็นประธาน มีพระสงฆ์ประชุมสงฆ์จำนวน 110 รูป ใช้เวลาสวดถอนจำนวน 69 วาระ หลังจากพิธีสวดถอนสีมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้เริ่มการก่อสร้างอุโบสถ ตามลำดับขั้นตอน

ระยะที่ 1. เทฐานรากอุโบสถแบบฐานแผ่ (เนื่องจากพื้นที่เป็นหินก้อนขนาดใหญ่)
ระยะที่ 2. เทคานคอดิน
ระยะที่ 3. เทเสาคอนกรีต
ระยะที่ 4. เทพื้นคอนกรีต
ระยะที่ 5. เทเสาอาคารอุโบสถ

ขณะนี้ การก่อสร้างอุโบสถจำเป็นต้องพักการก่อสร้างเป็นการชั่วคราว เนื่องจากทางวัดขาด สภาพคล่องทางด้านงบประมาณในการใช้จ่าย จึงได้พิจารณาเห็นร่วมกันว่าควรพักการก่อสร้าง เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีผู้มีจิตศรัทธา จึงจะดำเนินการให้แล้วเสร็จต่อไป

ประการสำคัญคือทางวัดไม่มีนโยบายแจกซองเรี่ยไรบอกบุญใด ๆ ทั้งสิ้น การก่อสร้างจึง ขึ้นอยู่ที่ชาวพุทธผู้มีจิตศรัทธาแจ้งความประสงค์เป็นเจ้าภาพเป็นราย ๆ ไป หรือบริจาคตามกำลัง ศรัทธา อนาคตเมื่อรวบรวมทุนทรัพย์ได้เพียงพอแล้วทางวัดจึงจะดำเนินการก่อสร้างอุโบสถให้แล้ว เสร็จตามแนวทางพระพุทธศาสนาสืบไป.